ห้องเรียนพ่อแม่ผู้แสดงโลก

เพราะ พ่อแม่คือผู้แสดงโลก ให้ลูกได้เรียนรู้ เอาเป็นแบบอย่าง  โรงเรียนทอสีจึงให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะก้าวเข้ามาเป็นครอบครัวทอสี คุณพ่อแม่จึงต้องเข้าห้องเรียน  เพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของพ่อแม่  ให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของโรงเรียน

กิจกรรมนี้จัดขึ้นทั้งหมด ๔ ครั้ง ในหัวข้อ รู้จักโรงเรียน รู้จักตนเอง และรู้จักลูก

ในครั้งที่ ๑ รู้จักโรงเรียน

ครูอ้อน คุณบุบผาสวัสดิ์  ผู้อำนวยการโรงเรียน  ได้เริ่มให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักหัวใจของการศึกษาพุทธปัญญา “ไตรสิกขา” ไตรสิกขาคือ กระบวนการศึกษา ๓ องค์ประกอบ เพื่อการบรรลุเป้าหมายของดุลยภาพของชีวิต ประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา

ในระดับอนุบาลจะเริ่มต้น ด้วยเรื่องของ “ศีล” ศีลก็คือพฤติกรรม  สิ่งที่โรงเรียนทอสีให้ความสำคัญมากในระดับของอนุบาลก็คือ การสร้างพฤติกรรมคุ้นเคยที่ดีงาม เช่น  เรื่องของการกิน เรื่องของการฟัง ต้องฝึกที่จะฟังเป็น เรื่องของการอยู่ร่วมกัน และการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน การฝึกพฤติกรรมของลูก

พ่อแม่สามารถที่จะฝึกลูกแล้วก็ฝึกตนเองในเรื่องของพฤติกรรมได้ตั้งแต่เล็กๆ โดยฝึกจากการทำให้เขาเห็นเป็นประจำ  สอนให้เขาทำจนกลายเป็นพฤติกรรมเคยชินที่ดีงาม

“วินัย เรื่องใหญ่กว่าที่คิด”

ครูอ้อน ชี้ให้เห้นความสำคัญของการมีวินัย และเน้นย้ำว่า วินัยเป็นสิ่งที่ต้องฝึกให้เกิดขึ้นในตัวลูก โดยมีพ่อแม่จัดสรรโอกาสให้ลูกได้ฝึกจนมีวินัยในตนเอง

 

ครั้งที่๒ ในหัวข้อ “รู้จักตนเอง”

แม่แจง จุฬารัตน์ ได้ชวนคุณพ่อคุณแม่  ทบทวนการเลี้ยงดูที่ได้รับมาจากพ่อแม่ของตน เพื่อให้นำมาพิจารณาว่า  มีสิ่งใดที่เราอยากนำมาใช้กับลูกเพราะเป็นสิ่งที่เราประทับใจสิ่งใดที่เราจะไม่ทำ เพราะจะส่งผลเสียกับลูก

แม่แจงกล่าวถึงหลักธรรมที่จะทำให้รู้จักตนเองและเติบโตพัฒนาตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ“สัมมาวายามะ” ซึ่งเป็นหนึ่งในอริยมรรคมีองค์แปด คือ เพียรชอบ เกิดฉันทะพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ ซึ่งเป็นหลักที่เราใช้พัฒนานักเรียน คุณครู และผู้ปกครองที่โรงเรียน

การที่จะนำ เพียร๔ มาพัฒนาตนเองนั้นมีหลักพิจารณาดังนี้

๑.เพียรรักษา

หากสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีจริงแล้ว ให้รักษาไว้ คือทำต่อไป

๒.เพียรระงับ

หากเรามีจุดด้อยในส่วนไหน ก็เพียรระงับ ลด ละ เลิก ให้หมดไป

๓.เพียรสร้าง

เมื่อพิจารณารู้ว่าเป็นสิ่งที่ดีแต่ไม่เคยทำเลย เราต้องสร้าง ให้เกิดขึ้น

๔.เพียรป้องกัน

คือป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลกรรม  ไม่ให้เกิดขึ้น

 

ถ้าคุณพ่อคุณแม่ใช้หลักเพียร๔ ในการพัฒนาตนเอง ก็จะดูแลชีวิตของตนเองได้อย่างเหมาะสม  ในการเลี้ยงดูลูกนั้น พ่อแม่ยังต้องมีคุณสมบัติของกัลยาณมิตร ๗ ประการ และใช้คุณธรรม พรหมวิหาร๔ อย่างสมดุล เพื่อให้ลูกเติบโตเต็มศักยภาพของตน

การอบรมสองครั้งสุดท้ายคือหัวข้อ “รู้จักลูก”

คุณพ่อคุณแม่ ได้รับฟัง ทำความเข้าใจ  วิเคราะห์ แบ่งปัน  พูดคุยกันและนำเสนอในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของลูก

อันดับแรกคือ”ตัวลูกเอง ”

ซึ่งมีความแตกต่างทางพื้นอารมณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอารมณ์และพฤติกรรมของลูกที่พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจ รวมทั้งเทคนิคการจัดการอารมณ์และพฤติกรรมของลูก

 

อันดับต่อไปคือ “การเลี้ยงดูของพ่อแม่”

การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม  การสลับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่กับลูก   ปฏิสัมพันธ์ของคนในครอบครัว  บรรยากาศในบ้าน ล้วนส่งผลต่อการเติบโตของลูกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  พ่อแม่จึงต้องมีสติ และระมัดระวังอย่างที่สุดในการทำหน้าที่ของตนระหว่างเลี้ยงดูลูก

 

อันดับสุดท้าย

“ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ” ที่ส่งผลต่อการเติบโตของลูก คือ โรงเรียน  บริบททางสังคม สื่อเทคโนโลยี  ซึ่งพ่อแม่ต้องจัดสรรให้ลูกเกิดการเรียนรู้ในแต่ละอย่างที่ลูกไปสัมผัสอย่างเหมาะสมกับวัย

 

และสิ่งที่สำคัญที่ทุกบ้านควรจะทำก็คือ “ธรรมนูญครอบครัว” เป็นสิ่งที่ต้องยืดถือร่วมกัน   แต่ละครอบครัวควรมีข้อตกลงในบ้านเพื่อให้ตัวเอง คู่ของตนเอง และลูกเข้าใจตรงกัน และปฏิบัติตาม

หลักการคือทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการทำข้อตกลงนี้ ลูกก็ต้องมีส่วนร่วม ต้องรู้ว่าบ้านนี้มีข้อตกลงอะไร ธรรมนูญนี้สามารถที่จะปรับได้ตลอดเวลาเมื่อทำไปสักพักแล้วไม่สำเร็จ ก็กลับมาทบทวนใหม่ ปรับเปลี่ยนวิธีการให้บรรลุผลได้

 

การอบรม”ห้องเรียนพ่อแม่ผู้แสดงโลก” สำหรับผู้ปกครองเข้าใหม่ ในปีนี้  จบลงแล้วหวังว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะได้รับความรู้  วิธีการเลี้ยงดูลูกและนำไปปรับใช้เพื่อบ่มเพาะชีวิตลูกให้เติบโตอย่างมีความสุขนะคะ

 

สำคัญที่สุดคือ การดำรงตนให้เป็นแบบอย่างของลูก เพราะคุณคือ  “ผู้แสดงโลก”ให้แก่ลูก

 

 

#ห้องเรียนพ่อแม่ผู้แสดงโลก

#วิชาชีวิตผู้ปกครอง

#โรงเรียนทอสีค่ะ